หลายวันมาแล้วครับ ไปโรงงานบ้านเป็ดน้อยมา
ก็มีการถามสารทุกข์สุขดิบ กันเป็นธรรมดา
แต่เรื่องที่โดนใจมากที่สุดคือการแสดงความรักที่เพื่อนมีต่อเพื่อนครับ
มันน่าดีใจที่มีเพื่อนอย่างนี้หรือป่าวลองคิดดูนะครับ
รุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยทำงานมาด้วยกันแกจมน้ำตายครับ วันเผาศพพี่เขา
ก็มีบรรดาเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันมาร่วมงานศพครับ
แต่สังเกตูเรื่องที่เขาตุยกันไม่ค่อยจะเกี่ยวกับผู้ตายสักเท่าไหร่หรอกครับ
คุยกันพอเป็นพิธี บางคนก็เมามาเลย
หลังจากเผาแล้วก็ต่างแยกย้ายกันไปบรรดาเพื่อนผู้ตายก็ถือโอกาสนี้แหละหาเหล้ากินกัน
ก็ไม่ใช่อื่นไกลครับ ก็ที่โรงงานนั่นเองแหละ
พอเหล้าเข้าปากมากเข้าๆก็อารมณ์รักเพื่อนอย่างสุดซึ้งก็เข้าสิง
บ้างก็บอกเป็นเพื่อนรักกันคิดถึงมากให้มาหา บ้างก็บอกจะทำทุกอย่างให้เพื่อน
บ้างก็โดดน้ำว่ายไป ทั้งๆที่อากาศก็เย็นมาก
บ้างก็หมั่นไส้กันทะเลาะกัน บางคนรำคาญก็เดินหนี
แต่เมื่อได้เวลาแล้วก็ต่างแยกย้ายกันกลับเหลือก็คนที่นอนอยู่ที่โรงงานนะแหละ
ไอ้คนที่บอกอยากเจอจะเป็นจะตายก็ไม่กล้านอนคนเดียว
ไอ้คนที่แสดงออกว่ารักเพื่อนต่างๆนาๆถึงเวลาก็หายหัว
ทำบุญโรงงานก็หายหน้าหมด นี่ถ้าทำบุญ100วันอยากดูว่าจะมากันซักกี่มากน้อย
เวลาเพื่อนอยู่ทำไมไม่ทำในสี่งที่อยากทำให้เพื่อน
พอเพื่อนตายแล้วแสดงออกบ้าๆบอ แล้วมันได้อะไรขึ้นมา
......................
แต่ที่คิดได้ตอนนี้ก็คือทำไมเราไม่บริจาคอวัยวะร่างกายของเราไห้กับ สภากาชาด
หรือโรงพยาบาล ไว้ให้นักศึกษาแพทย์ ไว้ศึกษาเล่าเรียน อันจะเป็นประโยชน์ต่อคนหมุ่มาก จะไม่ดีกว่าหรือ
ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นศพไร้ญาติไม่มีใครทำบุญไปไห้ครับ เกิดชาติหน้าจะพิการ แขนขาไม่ครบอย่ากลัวครับ ตามหลักพระพุทธศาสนาถือเป็นการให้ ทาน ครับยิ่งไห้ก็ยิ่งได้ และศพเหล่านั้นจะได้รับพระราชทานเพลิงศพ ถือเป็นเกียรติอันสูงส่งครับ
........................ว่าแล้วเราไปบริจาคร่างกายกันครับ.....................
ส่วนอื่นๆของผมก็
ครับ
.................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น